สรุปสั้นๆ คดี ตา-ยาย เก็บเห็ดถูกจำคุก

สรุปสั้นๆ คดี ตา-ยาย เก็บเห็ดถูกจำคุก

เฟซบุ๊ก Pachara La  โพสต์ข้อความเล่าถึงเหตุการณ์คดี ดังนี้

1.ความผิดที่โดนลงโทษจริงๆ คือตัดไม้ในเขตป่าสงวนไม่ใช่เก็บเห็ดในป่าสงวน

2.จำเลยทั้งสองหรือตายายตามข่าว (อายุ 51 และ 48 ปี แต่ไม่รู้ทำไมตามข่าวถึงเรียกตายาย ไม่เรียกลุงป้า) ยอมรับสารภาพตั้งแต่ชั้นจับกุมกับตำรวจ จนถึงชั้นพิจารณาคดีในศาลก็รับสารภาพ

3.จากข้อเท็จจริง ตายายทั้งสองขี่มอเตอร์ไซต์ไปเก็บเห็ดในป่าสงวนและบังเอิญไปเจอเจ้าหน้าที่กำลังตามจับพวกตัดไม้จริงๆ ด้วยความตกใจ ตายายจึงวิ่งหนีเจ้าหน้าที่ โดยทิ้งมอเตอร์ไซต์ไว้ เจ้าหน้าที่จึงยึดรถไว้ ต่อมาตายายอยากได้รถคืนจึงไปติดต่อตำรวจ ตำรวจดันบอกว่าถ้าอยากได้รถคืนให้เซ็นรับสารภาพ เรื่องจะได้จบๆ ตายายจึงเซ็นเอกสารรับสารภาพว่าตัดไม้ในเขตป่าสงวน

4.ตำรวจส่งเรื่องให้อัยการ และอัยการสั่งฟ้องต่อศาลในชั้นพิจารณาคดีในศาล ทนายของตายายบอกใก้ตายายรับสารภาพ เรื่องจะได้จบ ตายายเลยรับสารภาพ ศาลจึงต้องลงโทษฐานความผิดตัดต้นไม้ในเขตป่าสงวน ลงโทษจำคุก 15 ปี

5.ถ้าตายายเลือกที่จะสู้คดี (ไม่ว่าจะในศาลชั้นสอบสวนของตำรวจหรือชั้นพิจารณาของศาล) โดยปฎิเสธว่าไม่ได้ตัดต้นไม้ โดยเข้าไปในเขตป่าสงวนเพื่อเก็บเห็ดเท่านั้น เชื่อว่าศาลจะยกฟ้องแน่นอน

6.คดีนี้เป็นตัวอย่างที่แสดงให้เห็นว่ากระบวนการยุติธรรมไทยมีปัญหาตั้งแต่ต้นธาร (ตำรวจ) -กลางธาร (อัยการ) -จนถึงปลายธาร (ศาล) 

7.การที่สังคมและบางฝักบางฝ่ายใช้คดีนี้เป็นประเด็นโจมตีศาลยุติธรรม ขึงไม่ถูกต้องเท่าใดนัก แต่ถ้าหากสังคมจะวิจารณ์กระบวนการยุติธรรมไทยทั้งระบบก็จำเป็นต้องยอมรับคำวิพากษ์นั้น

โดยคุณ aumstar 

ที่มา : doodiza.com